ความเป็นมา ดาว M78

         ดาวอุลตร้า เป็นดาวดวงหนึ่งในระบบเนบิวล่า M 78 ซึ่งมีดาวอยู่ในระบบนี้ถึง 69 ล้านดวง และดาวดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าโลกมนุษย์ถึง 60 เท่า ในช่วงนั้นพลเมืองชาวดาวอุลตร้าแมนมีรูปร่างเหมือนกับชาวโลก และใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขมาโดยตลอด จน 26 ล้านปีก่อน ดาวอุลตร้าประสบมหันตภัยอันร้างแรงขึ้น นั้นก็คือ ดวงอาทิตย์ของดาวอุลตร้าได้แตกดับลงอย่างฉับพลัน เนื่องจากการที่ดวงอาทิตย์ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งพลังแห่งความอบอุ่นให้กับดาวทุกดวงนั้นได้สูญสลายไป ทำให้ดาวอุลตร้ามีสภาพเหมือนดาวเคราะห์ที่เย็นจัดและแห้งแล้ง พลเมืองกว่าครึ่งดาวต้องล้มตายไปกับเหตุการณ์ดังกล่าว


เจ้าพ่ออุลตร้าลงมาช่วยห้าพี่น้องอุลตร้า ที่ถูกมนุษย์ดาวฮิปโปริตทำให้กลายเป็นหิน
    ซึ่งเจ้าพ่ออุลตร้าได้ถอดคัลเลอร์ไทเมอร์ของตนเองเพื่อส่งพลังคืนให้แก่ลูกๆ ทำให้เจ้าพ่ออุลตร้าต้องสิ้นชีพลง

          เหล่านักวิทยาศาสตร์ดาวอุลตร้าจึงค้นหาทางแก้ไขในยามที่ไม่มีพระอาทิตย์ จนได้ข้อสรุปออกมา คือ การสร้างเตาพลังงานพลาสม่าสปาร์ค เตาพลังงานที่ให้พลังงานแสงและพลังงานความร้อนขึ้นมาทดแทนพระอาทิตย์ โดยการติดตั้งเครื่องไว้เป็นแกนกลาง (ของดั้งเดิมนั้น สร้างไว้ในใต้ดินและมีหลายเครื่อง) ส่งพลังงานในรูปแบบของความร้อนและแสงครอบคลุมชั้นบรรยากาศของดาวทั้งดวง จนทำให้ดาวอุลตร้านั้นมีสภาพเหมือนดาวที่เรืองแสงเหมือนกับเป็นพระอาทิตย์ไปในตัว และนี้คือที่มาของอีกชื่อที่ใช้เรียกดาวอุลตร้านี้ว่า อาณาจักรแห่งแสง ซึ่งมาจากลักษณะของดาวหลังจากที่แก้ไขวิกฤตนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และเพราะเตาพลังพลาสม่าสปาร์คนี้เอง ที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชาวดาวอุลตร้าทั้งดวง จากเดิมที่พวกเขามีรูปกายเหมือนมนุษย์ธรรมดานั้น หลังจากที่ใช้พลังงานพลาสม่าสปาร์คไปแล้ว ชาวดาวอุลตร้าจึงได้รับการอาบแสงจากเตาพลังงานนี้โดยตรง ซึ่งในพลังงานแสงนั้น ได้กระจายอานุภาคดิพเพอเรเตอร์ที่อยู่ในพลังงานแสงออกมาด้วย อานุภาคดิพเพอเรเตอร์นั้น ได้เปลี่ยนแปลงร่างกายของชาวดาวอุลตร้าขึ้นมาอย่างมาก ไม่เพียงพวกเขามีร่างกายที่ใหญ่โตและทรงพลังด้วยแล้ว พวกเขาสามารถบินได้ และปล่อยพลังงานออกมาในรูปของลำแสงต่างๆนาๆอีกด้วย ยังได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างของชาวดาวอุลตร้าที่แต่เดิมเป็นมนุษย์ปกติ ให้เป็นมนุษย์กายสีเงินลายแดง หรือกายสีแดงหรือน้ำเงินขึ้นมา ด้วยอนิสงห์ของพลังงานทดแทนเพื่อความอยู่รอดของพวกเขานี้เอง ที่ได้ทำให้ชาวดาวอุลตร้า เป็นยอดมนุษย์อย่างที่เราๆท่านๆได้รู้จักและเห็นมากันจนบัดนี้ แต่เนื่องจากว่าชาวดาวอุลตร้าได้อาบพลังงานแสงที่ทำให้ดาวทั้งดวงนั้นส่องสว่างและอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่อบอุ่นอยู่ตลอดมานมนาน ได้ทำให้ร่างกายของชาวอุลตร้าส่วนมากนั้น ไม่สามารถปรับตัวกับสภาวะแวดล้อมที่อุณหภูมิลดต่ำหรือเย็นกว่า พูดกันง่ายๆก็คือ พวกเขาแพ้ต่อความเย็น ไม่ว่าจะสภาวะแวดล้อมหรือการจู่โจมของเหล่าสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวขึ้น และแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังมากมายเมื่อได้รับแสงอาทิตย์จากดวงอาทิตย์ของระบบดาวอื่นๆ (หรือแม้แต่โลกของเราเอง) แต่ด้วยที่สภาพแวดล้อมของดาวนั้นแตกต่างกัน ทำให้ชาวดาวอุลตร้ามีเวลาอยู่บนดาวได้อย่างจำกัด แต่หลังจากการวิวัฒนาการจนเป็นยอดมนุษย์ไปแล้ว พวกเขาเลยมีคัลเลอร์ไทม์เมอร์ ติดมาด้วย ซึ่งเปรียบเหมือนเครื่องคอยย้ำเตือนถึงพลังในตัวยอดมนุษย์ใกล้จะหมดลงแล้วด้วย แม้ว่าจะอยู่บนดาวอุลตร้าแล้วก็ตาม หากใช้พลังเกินกำหนด คัลเลอร์ไทมเมอร์ก็คอยเตือนขึ้นมานี้เอง